ภาพรวมการปรับแต่งโค้ด

การปรับแต่งโค้ด ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใน Gemini Code Assist Enterprise ช่วยให้คุณรับคำแนะนำโค้ดจาก Gemini Code Assist Enterprise ที่อิงตามที่เก็บข้อมูลส่วนตัวขององค์กร และสอดคล้องกับรูปแบบการเขียนโค้ดขององค์กร

การปรับแต่งโค้ดช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ใช้บริบทระยะไกลจาก องค์กรของคุณใน IDE ได้โดยตรง ดังที่แสดงในไดอะแกรมต่อไปนี้

การปรับแต่งโค้ดจะเชื่อมต่อ Gemini Code Assist กับที่เก็บโค้ดของคุณ ซึ่งจะช่วยให้ Gemini Code Assist สามารถเสนอคำแนะนำในการเขียนโค้ดใน IDE ได้

ขณะที่คุณเขียนโค้ด Gemini Code Assist จะค้นหาดัชนีส่วนตัวของคุณเพื่อหา โค้ดที่คล้ายกับโค้ดที่คุณพยายามเขียน จากนั้นจะรวมการจับคู่ที่เกี่ยวข้อง ไว้ในพรอมต์โค้ดและส่งการจับคู่เหล่านี้ไปยัง บริการคำแนะนำของ Gemini Code Assist การปรับแต่งโค้ด จะช่วยให้คำแนะนำเป็นข้อมูลล่าสุดโดยการจัดทำดัชนีฐานโค้ดใหม่ทุก 24 ชั่วโมง เพื่อ ให้มั่นใจว่าคำแนะนำโค้ดจะเป็นข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอ Gemini Code Assist จะส่งโค้ดที่สร้างขึ้นให้คุณ

การค้นหาการปรับแต่งโค้ดจะค้นหารีโปทั้งหมดในดัชนีของคุณ ซึ่งต่างจากฟีเจอร์การรับรู้โค้ดเบสทั้งหมดที่จำกัดเฉพาะการค้นหาไฟล์ในโฟลเดอร์ปัจจุบันและแท็บที่เปิดใน IDE หลังจากตั้งค่าการปรับแต่งโค้ดแล้ว การปรับแต่งดังกล่าวจะทำงานเป็นส่วนหนึ่ง ของฟีเจอร์การเติมโค้ดอัตโนมัติและการสร้างโค้ด

ทั้ง Gemini Code Assist และการปรับแต่งโค้ดเป็นบริการที่มีการจัดการ คุณอนุญาตให้ใช้ตามที่นั่งต่อเดือน

การรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงและการจัดเก็บโค้ดส่วนตัว

Google ให้ความปลอดภัยแก่โค้ดส่วนตัวที่จัดเก็บไว้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

  • เราจะจัดทำดัชนีและจัดเก็บโค้ดของคุณในสภาพแวดล้อมแบบผู้เช่ารายเดียวโดยเฉพาะ
  • การควบคุมการเข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ ช่วยป้องกันไม่ให้พนักงานของ Google เข้าถึงเนื้อหาของคุณโดยไม่มีเหตุผล และอาจต้องได้รับอนุมัติอย่างชัดเจน
  • โมเดล Gemini ไม่ได้ฝึกจากซอร์สโค้ดส่วนตัวของคุณ
  • ผลการตรวจของคุณจะเป็นข้อมูลส่วนตัว และเราจะไม่แชร์ผลการตรวจของคุณกับลูกค้า รายอื่นๆ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยของ Google ได้ที่ ภาพรวมความปลอดภัยของ Google

วิธีควบคุมการเข้าถึงข้อมูลของคุณมีดังนี้

  • คุณใช้สิทธิ์ Identity and Access Management เพื่อช่วยควบคุมบุคคล ที่รับคำแนะนำโค้ดจากโค้ดเบสได้
  • คุณสามารถ สร้าง.aiexcludeไฟล์ เพื่อเลือกที่เก็บหรือส่วนของที่เก็บที่ Gemini Code Assist จัดทำดัชนี

หากต้องการกำหนดค่าการปรับแต่งโค้ดใน IDE โปรดดูหัวข้อ กำหนดค่าการปรับแต่งโค้ดของ Gemini Code Assist

ข้อจำกัด

  • Google จำกัดจำนวนดัชนีที่เก็บโค้ดไว้ที่ 1 รายการต่อโปรเจ็กต์ และต่อองค์กร
  • จำนวนที่เก็บสูงสุดที่จัดทำดัชนีได้คือ 20,000 รายการ
  • จำนวนกลุ่มที่เก็บสูงสุดต่อดัชนีที่เก็บโค้ดคือ 500
  • จำนวนที่เก็บสูงสุดต่อกลุ่มที่เก็บคือ 500
  • การปรับแต่งโค้ดได้รับการรองรับในส่วนขยาย Gemini Code Assist ของ VS Code (เวอร์ชัน 2.18.0 ขึ้นไป), ปลั๊กอิน Gemini Code Assist ของ IntelliJ (เวอร์ชัน 1.1.0), Cloud Workstations และ Cloud Shell Editor
  • การปรับแต่งโค้ดรองรับที่เก็บที่โฮสต์ใน github.com, gitlab.com, bitbucket.org และที่เก็บภายในองค์กรที่โฮสต์ใน GitLab Enterprise, GitHub Enterprise และ Bitbucket Data Center
  • การปรับแต่งโค้ดไม่รองรับการจำกัด IP ของ GitHub Enterprise Cloud
  • การปรับแต่งโค้ดรองรับเฉพาะการเชื่อมต่อ Developer Connect ในสถานที่ตั้ง (ภูมิภาค) ต่อไปนี้
    • us-central1
    • europe-west1
    • asia-southeast1
  • การปรับแต่งโค้ดจะไม่จัดทำดัชนีสื่อ การปรับแต่งโค้ดรองรับเฉพาะ เอกสารประกอบ (ใน Markdown) และภาษาต่อไปนี้

    • C, C++ และ C#
    • Golang
    • Java
    • JavaScript
    • Kotlin
    • PHP
    • Python
    • Rust
    • TypeScript

    ระบบจะไม่จัดทำดัชนีหรือใช้ภาษาการเขียนโค้ดอื่นๆ ในการปรับแต่งโค้ด หากต้องการขอรับการสนับสนุนสำหรับภาษาการเขียนโค้ด ให้คลิกส่งความคิดเห็นในหน้านี้ แล้วเลือกความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

ขั้นตอนถัดไป

  1. กำหนดค่า Gemini Code Assist การปรับแต่งโค้ด

  2. เมื่อกำหนดค่าการปรับแต่งโค้ดใน IDE แล้ว ให้ดูใช้การปรับแต่งโค้ด