สรุป
คุณใช้ตัวกรองสินค้าคงคลังเพื่อยกเว้นผลิตภัณฑ์บางอย่างจากแคมเปญ Shopping ได้ หากต้องการยกเว้นผลิตภัณฑ์จากแคมเปญ Smart Shopping ให้ใช้เกณฑ์เชิงลบสำหรับกลุ่มรายชื่อแทน
คุณสร้างตัวกรองพื้นที่โฆษณาตามค่าอย่างน้อย 1 ค่าจาก ฟิลด์ เช่น ป้ายกำกับที่กำหนดเอง (0-4) หรือประเภทผลิตภัณฑ์ได้ เมื่อใช้ตัวกรองพื้นที่โฆษณากับแคมเปญ ระบบจะแสดงเฉพาะข้อเสนอที่ตรงกับตัวกรอง คุณสร้างตัวกรองพื้นที่โฆษณาได้ใน UI ของ Google Ads
ขั้นตอนในส่วนนี้ใช้ป้ายกำกับที่กำหนดเองเป็นตัวอย่าง คุณยังทำเช่นนี้กับแอตทริบิวต์ฟีดอื่นๆ ที่รองรับได้ด้วย เช่น ประเภทผลิตภัณฑ์ แบรนด์ หรือหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ Google
ตัวกรองเป็นไปตามตรรกะ AND
คุณจะเห็นเฉพาะผลลัพธ์ที่ตรงกับเกณฑ์ทั้งหมดในตัวกรอง
ขั้นตอนด้วยตนเอง
ตัวอย่างขั้นตอนด้วยตนเองโดยใช้แอตทริบิวต์ป้ายกำกับที่กำหนดเองมีดังนี้
- ลิงก์ Merchant Center กับ Google Ads
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
- คลิกแคมเปญที่มีอยู่ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์ Merchant Center หรือสร้างแคมเปญใหม่
- คลิกการตั้งค่าในแถบด้านข้างซ้าย
- ขยายเมนูแบบเลื่อนลงการตั้งค่าเพิ่มเติม
- คลิกตัวกรองพื้นที่โฆษณา
- ในช่องที่แสดง ให้ทำดังนี้
- เลือกป้ายกำกับที่กำหนดเอง 0 ป้ายที่กำหนดเอง 0-4 รองรับ
- ป้อนค่าสำหรับป้ายกำกับที่กำหนดเอง
- หากต้องการกรองตามหลายค่า ให้คลิกและ แล้วทำซ้ำขั้นตอนก่อนหน้า
ขั้นตอนอัตโนมัติ
คุณใช้ขอบเขตข้อมูลได้เพียง 1 รายการต่อแคมเปญ ขอบเขตการแสดงข้อมูลแต่ละรายการ มีตัวกรองผลิตภัณฑ์ได้หลายรายการ
ตัวอย่างขั้นตอนอัตโนมัติโดยใช้ product_custom_attribute
เป็นตัวอย่างมีดังนี้
- ตรวจสอบว่าคุณได้สร้างแคมเปญเรียบร้อยแล้วและมีรหัสแคมเปญ
- โทรหา
MutateCampaignCriteriaRequest
ดังนี้- ตั้งค่า
campaign_criterion_operation
เป็นcreate
- ตั้งค่า
product_custom_attribute.index
เป็น0
(รองรับ0
-4
) - ตั้งค่า
product_custom_attribute.value
เป็นค่าที่ต้องการสำหรับ ป้ายกำกับที่กำหนดเอง - ตั้งค่าฟิลด์
campaign
เป็นresource_name
ของcampaign_criterion
ที่คุณสร้างในขั้นตอนก่อนหน้า
- ตั้งค่า
ค่าป้ายที่กำหนดเองมีความยาวได้ 1-100 อักขระ และมีค่าที่ไม่ซ้ำกันได้สูงสุด 1,000 ค่าทั้งบัญชีสำหรับแอตทริบิวต์ป้ายที่กำหนดเองแต่ละรายการ (รวมสูงสุด 5,000 ป้าย)
ดูตัวอย่างตัวกรองพื้นที่โฆษณาประเภทอื่นๆ และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ตัวอย่าง Shopping ของ Google Ads