การลงทะเบียนกับ Google

หากวางแผนที่จะผสานรวมกับ Google Assistant โปรดดูคอนโซล Actions on Google

มิฉะนั้น ก่อนเพิ่มการให้สิทธิ์ OAuth 2.0 ลงในบริการ ให้เตรียมข้อมูลต่อไปนี้และติดต่อตัวแทนฝ่ายความสัมพันธ์กับนักพัฒนาแอปหรือฝ่ายพัฒนาธุรกิจ

  • URL ปลายทางของการให้สิทธิ์ นี่คือ URL ของ ปลายทางการให้สิทธิ์ ที่คุณโฮสต์และ Google จะโทรหา ควรยอมรับการรับส่งข้อมูล ผ่าน HTTPS เท่านั้น เช่น https://myservice.example.com/auth บ่อยครั้งที่หน้าลงชื่อเข้าใช้ที่มีอยู่สามารถปรับให้เป็น ปลายทางการให้สิทธิ์ได้

    redirect_uri ที่ส่งเป็นพารามิเตอร์ไปยังปลายทางการให้สิทธิ์จะมีรูปแบบดังนี้

    https://oauth-redirect.googleusercontent.com/r/YOUR_PROJECT_ID
    https://oauth-redirect-sandbox.googleusercontent.com/r/YOUR_PROJECT_ID
    

    redirect_uri ควรอยู่ในรายการที่อนุญาตสำหรับ client_id ที่คุณกำหนดให้กับ Google

  • URL ของปลายทางโทเค็น นี่คือ URL ของ ปลายทางโทเค็น ที่คุณโฮสต์และ Google จะโทรหา ควรยอมรับการรับส่งข้อมูลผ่าน HTTPS และจากบริการอื่นๆ ที่รู้จักเท่านั้น (เช่น ของ Google) เช่น https://oauth2.example.com/token ปลายทางการให้สิทธิ์และโทเค็นอาจโฮสต์อยู่ในโดเมนที่แตกต่างกัน

  • URL ปลายทางการเพิกถอนโทเค็น (ไม่บังคับ) นี่คือ URL ของปลายทางการเพิกถอน ที่คุณโฮสต์และ Google จะเรียกใช้ ควรยอมรับการรับส่งข้อมูลผ่าน HTTPS และจากบริการอื่นๆ ที่รู้จักเท่านั้น (เช่น ของ Google) เช่น https://oauth2.example.com/revoke คุณอาจโฮสต์ปลายทางการให้สิทธิ์ โทเค็น และการเพิกถอนในโดเมนที่แตกต่างกัน

  • URL การป้องกันข้ามบัญชี (RISC) ที่ไม่บังคับ นี่คือ URL ที่คุณโฮสต์และ Google จะโทรไปยัง URL นี้ คุณเลือกค่าได้

  • รหัสไคลเอ็นต์และรหัสลับไคลเอ็นต์สำหรับ Google คุณต้องกำหนดรหัสไคลเอ็นต์ให้ Google ซึ่งใช้ในคำขอ OAuth 2.0 เพื่อระบุแหล่งที่มาของคำขอ และรหัสลับไคลเอ็นต์ซึ่งใช้เพื่อป้องกันการปลอมแปลงคำขอ รหัสไคลเอ็นต์และรหัสลับไคลเอ็นต์ของ Google สามารถเป็นค่าสตริงที่ปลอดภัยสำหรับ URL ที่คุณเลือก คุณต้องตรวจสอบว่ามีเพียง Google และบริการของคุณเท่านั้นที่มองเห็นรหัสลับไคลเอ็นต์

  • สตริงขอบเขตที่ไม่บังคับ คุณอาจต้องกำหนดขอบเขตที่แสดงถึงหมวดหมู่ต่างๆ ของข้อมูลผู้ใช้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณและประเภทข้อมูลผู้ใช้ที่ API ของคุณทำให้พร้อมใช้งาน การทำเช่นนี้จะช่วยให้บุคคลที่สามขอสิทธิ์จากผู้ใช้เพื่อเข้าถึงข้อมูลบางประเภทเท่านั้น และจำกัดข้อมูลที่พร้อมใช้งานสำหรับลูกค้าให้เป็นไปตามขอบเขตที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากบริการของคุณมีข้อมูลมากกว่าที่จำเป็นสำหรับการผสานรวมกับ Google คุณอาจใช้ขอบเขตเพื่อให้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลเพียงบางส่วน

  • รหัสโปรเจ็กต์ Google API ของคุณ

    วิธีดูรหัสโปรเจ็กต์

    1. ค้นหาโปรเจ็กต์ในตารางในหน้า Landing Page รหัสโปรเจ็กต์จะปรากฏในคอลัมน์รหัส