แทนที่ Availability
ของ Service
ที่มีอยู่ของผู้ขายที่จัดการโดยผู้รวบรวมข้อมูลที่ระบุ และแสดงผล
คำขอ HTTP
POST https://mapsbooking.googleapis.com/v1alpha/inventory/{serviceAvailability.name=partners/*/merchants/*/services/*}/availability:replace
URL ใช้ไวยากรณ์การแปลง gRPC
พารามิเตอร์เส้นทาง
พารามิเตอร์ | |
---|---|
service |
ชื่อทรัพยากรของบริการที่จะใช้ ในรูปแบบ |
เนื้อหาของคำขอ
เนื้อความของคำขอมีข้อมูลซึ่งมีโครงสร้างดังต่อไปนี้
การแสดง JSON |
---|
{ "serviceAvailability": { "name": string, "startTimeRestrict": string, "endTimeRestrict": string, "durationRestrict": string, "resourcesRestrict": { "staffId": string, "staffName": string, "roomId": string, "roomName": string, "partySize": integer, "roomDescription": { object ( |
ช่อง | |
---|---|
service |
หากระบุไว้ เราจะถือว่าเอนทิตีความพร้อมให้บริการที่ระบุเป็นภาพรวมที่สมบูรณ์จาก [startTimeRestrict, endTimeRestrict) กล่าวคือ ระบบจะลบความพร้อมที่มีอยู่ทั้งหมดหากเงื่อนไขต่อไปนี้เป็นจริง
หากตั้งค่าข้อความระยะเวลาไว้ ระบบจะจํากัดเงื่อนไขเพิ่มเติมดังนี้
หากตั้งค่าข้อความ resourcesRestrict ระบบจะจํากัดเงื่อนไขเพิ่มเติม ดังนี้
โดยทั่วไปแล้วฟิลด์เหล่านี้จะใช้เพื่ออัปเดตความพร้อมให้บริการอย่างสมบูรณ์ในช่วงระยะเวลาหนึ่งๆ การตั้งค่า startTimeRestrict โดยไม่ตั้งค่า endTimeRestrict จะถือว่าหมายถึงทุกเวลาที่เริ่มต้นที่ startTimeRestrict การประทับเวลาในรูปแบบ RFC3339 UTC "Zulu" ที่มีความละเอียดระดับนาโนวินาทีและทศนิยมสูงสุด 9 หลัก ตัวอย่างเช่น |
service |
การตั้งค่า endTimeRestrict โดยไม่ตั้งค่า startTimeRestrict จะถือว่าหมายถึงทุกช่วงเวลาจนถึง endTimeRestrict การประทับเวลาในรูปแบบ RFC3339 UTC "Zulu" ที่มีความละเอียดระดับนาโนวินาทีและทศนิยมสูงสุด 9 หลัก ตัวอย่างเช่น |
service |
การตั้งค่าระยะเวลาจะจำกัดขอบเขตการอัปเดตให้เหลือเฉพาะความพร้อมที่มีระยะเวลาตรงกัน ระยะเวลาเป็นวินาทีที่มีเศษทศนิยมได้สูงสุด 9 หลัก โดยลงท้ายด้วย |
service |
การตั้งค่า resourcesRestrict จะจํากัดขอบเขตการอัปเดตให้เหลือเฉพาะชุดทรัพยากรนี้ ช่องรหัสทั้งหมดของทรัพยากรต้องตรงกันทั้งหมด |
service |
รายการความพร้อมใหม่ |
เนื้อหาการตอบกลับ
รายการความพร้อมใช้งานและผู้ที่ควรใช้/เวลาที่ควรใช้
หากทำสำเร็จ เนื้อหาการตอบกลับจะมีข้อมูลซึ่งมีโครงสร้างดังต่อไปนี้
การแสดง JSON |
---|
{ "name": string, "startTimeRestrict": string, "endTimeRestrict": string, "durationRestrict": string, "resourcesRestrict": { object ( |
ช่อง | |
---|---|
name |
ชื่อทรัพยากรของบริการที่จะใช้ ในรูปแบบ |
start |
หากระบุไว้ เราจะถือว่าเอนทิตีความพร้อมให้บริการที่ระบุเป็นภาพรวมที่สมบูรณ์จาก [startTimeRestrict, endTimeRestrict) กล่าวคือ ระบบจะลบความพร้อมที่มีอยู่ทั้งหมดหากเงื่อนไขต่อไปนี้เป็นจริง
หากตั้งค่าข้อความระยะเวลาไว้ ระบบจะจํากัดเงื่อนไขเพิ่มเติมดังนี้
หากตั้งค่าข้อความ resourcesRestrict ระบบจะจํากัดเงื่อนไขเพิ่มเติม ดังนี้
โดยทั่วไปแล้วฟิลด์เหล่านี้จะใช้เพื่ออัปเดตความพร้อมให้บริการอย่างสมบูรณ์ในช่วงระยะเวลาหนึ่งๆ การตั้งค่า startTimeRestrict โดยไม่ตั้งค่า endTimeRestrict จะถือว่าหมายถึงทุกเวลาที่เริ่มต้นที่ startTimeRestrict การประทับเวลาในรูปแบบ RFC3339 UTC "Zulu" ที่มีความละเอียดระดับนาโนวินาทีและทศนิยมสูงสุด 9 หลัก ตัวอย่างเช่น |
end |
การตั้งค่า endTimeRestrict โดยไม่ตั้งค่า startTimeRestrict จะถือว่าหมายถึงทุกช่วงเวลาจนถึง endTimeRestrict การประทับเวลาในรูปแบบ RFC3339 UTC "Zulu" ที่มีความละเอียดระดับนาโนวินาทีและทศนิยมสูงสุด 9 หลัก ตัวอย่างเช่น |
duration |
การตั้งค่าระยะเวลาจะจำกัดขอบเขตการอัปเดตให้เหลือเฉพาะความพร้อมที่มีระยะเวลาตรงกัน ระยะเวลาเป็นวินาทีที่มีเศษทศนิยมได้สูงสุด 9 หลัก โดยลงท้ายด้วย |
resources |
การตั้งค่า resourcesRestrict จะจํากัดขอบเขตการอัปเดตให้เหลือเฉพาะชุดทรัพยากรนี้ ช่องรหัสทั้งหมดของทรัพยากรต้องตรงกันทั้งหมด |
availability[] |
รายการความพร้อมใหม่ |
ขอบเขตการให้สิทธิ์
ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้
https://www.googleapis.com/auth/mapsbooking