Search Ads 360 Reporting API ใช้การกําหนดเวอร์ชันแบบเชิงความหมาย
โดยจะมีเวอร์ชันหลักและเวอร์ชันรองอยู่ในรูปแบบ vMAJOR_MINOR
เช่น v0_0
คือเวอร์ชันหลักเวอร์ชันแรก และ v0_1
คือเวอร์ชันย่อยเวอร์ชันแรก ส่วนต่อท้ายของหมายเลขเวอร์ชันจะระบุประเภทเวอร์ชัน โดยเวอร์ชันหลักจะมีค่าเป็น 0 เสมอ และเวอร์ชันย่อยจะมีค่ามากกว่า 0 เสมอ
เวอร์ชันหลัก
เวอร์ชันหลักจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกับส่วนอื่นในระบบ ซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เข้ากันได้กับเวอร์ชันเก่า
เวอร์ชันหลักแต่ละเวอร์ชันจะมีปลายทางแยกกัน ตัวอย่างเช่น
https://searchads360.googleapis.com/v0 https://searchads360.googleapis.com/v1
เมื่ออัปเกรดจากเวอร์ชันหลักเวอร์ชันหนึ่งเป็นเวอร์ชันหลักอีกเวอร์ชันหนึ่ง คุณอาจต้องเปลี่ยนรหัสก่อนเปลี่ยนไปใช้ปลายทางเวอร์ชันหลักใหม่
หากคุณใช้คลังไคลเอ็นต์ คุณจะต้องอัปเกรดเป็นเวอร์ชันล่าสุด เวอร์ชันหลักใหม่จะมีคู่มือการย้ายข้อมูลเพื่อช่วยคุณแก้ไขการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกับส่วนอื่นในระบบในโค้ด
ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกับส่วนอื่นในระบบ ได้แก่
- การนำบริการ อินเทอร์เฟซ ฟิลด์ เมธอด หรือค่า Enum ออกหรือเปลี่ยนชื่อ
- การเปลี่ยนประเภทของฟิลด์
- การเปลี่ยนรูปแบบชื่อทรัพยากร
- การเปลี่ยนรูปแบบ URL ในคําจํากัดความ HTTP
- การเปลี่ยนรูปแบบเอาต์พุต เช่น การเปลี่ยน
0
เป็น--
เป็นค่าเริ่มต้น - การเปลี่ยนเหตุผลของข้อผิดพลาดที่แสดงจาก A เป็น B
เวอร์ชันย่อย
เวอร์ชันย่อยจะมีเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่เข้ากันได้แบบย้อนหลังเท่านั้น
เมื่อมีการเผยแพร่เวอร์ชันย่อย ระบบจะอัปเดตปลายทางที่ใช้อยู่แล้วโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะไม่ทำให้โค้ดใช้งานไม่ได้ คุณใช้คลังไคลเอ็นต์ที่มีอยู่ต่อไปได้
เวอร์ชันย่อยจะมีฟีเจอร์ใหม่หรือการอัปเดตที่ไม่ส่งผลต่อโค้ดที่มีอยู่ หากต้องการใช้ฟีเจอร์ใหม่ คุณต้องอัปเกรดคลังไคลเอ็นต์เป็นเวอร์ชันล่าสุด
พระอาทิตย์ตก
เมื่อถึงกำหนดเวลาหยุดให้บริการ Search Ads 360 Reporting API เวอร์ชันเก่า เราจะโพสต์ประกาศใน Google Group searchads-api-announcements