รายงาน

เช่นเดียวกับแคมเปญประเภทอื่นๆ คุณสามารถใช้ GoogleAdsService.SearchStream เพื่อดึงข้อมูลแอตทริบิวต์และเมตริกประสิทธิภาพของ Smart Campaign

เมตริก Smart Campaign พร้อมใช้งานจากcampaign แหล่งข้อมูลและเมตริกเฉพาะข้อความค้นหาพร้อมให้ใช้งานจาก smart_campaign_search_term_view ทรัพยากร ใน smart_campaign_search_term_view องค์ประกอบ search_term จะมีคำค้นหาที่ตรงกันที่สร้างผลลัพธ์

การแสดงผลและการคลิกของ Smart Campaign ใน 30 วันที่ผ่านมา

ข้อความค้นหาด้านล่างดึงการแสดงผลและจำนวนคลิกสำหรับข้อความค้นหาแต่ละรายการจาก ช่วง 30 วันที่ผ่านมาสำหรับ Smart Campaign ทั้งหมดโดยแบ่งกลุ่มตามวันที่

SELECT
  campaign.id,
  campaign.name,
  segments.date,
  metrics.impressions,
  metrics.clicks,
  smart_campaign_search_term_view.search_term
FROM smart_campaign_search_term_view
WHERE segments.date DURING LAST_30_DAYS

ข้อความค้นหา 10 อันดับแรกตามการแสดงผล

ข้อความค้นหาด้านล่างเรียกข้อความค้นหา 10 อันดับแรกที่สร้าง การแสดงผลสูงสุดในช่วง 30 วันที่ผ่านมา รวมถึงต้นทุน

SELECT
  campaign.id,
  campaign.name,
  segments.date,
  metrics.impressions,
  metrics.cost_micros,
  smart_campaign_search_term_view.search_term
FROM smart_campaign_search_term_view
ORDER BY metrics.impressions DESC
LIMIT 10

ดึงข้อมูลแอตทริบิวต์ของ KeywordThemeConstant

เนื่องจาก KeywordThemeConstants ดึงมาจากชุดข้อมูลขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่ เฉพาะลูกค้า เป็นไปไม่ได้ที่จะสแกนทั้งไฟล์ keyword_theme_constant ทรัพยากรทั้งหมดได้พร้อมกัน หากต้องการเรียกข้อมูล KeywordThemeConstants ทีละรายการ คุณต้อง ค้นหาแหล่งข้อมูล campaign_criterion เพื่อค้นหา ชื่อทรัพยากรของธีมคีย์เวิร์ดที่เชื่อมโยงกับแคมเปญ โดยใช้ชื่อทรัพยากรเหล่านั้นเพื่อกรองทรัพยากร keyword_theme

SELECT
  campaign_criterion.type,
  campaign_criterion.status,
  campaign_criterion.criterion_id,
  campaign_criterion.keyword_theme.keyword_theme_constant
FROM campaign_criterion
WHERE campaign_criterion.type = KEYWORD_THEME

ในตอนนี้ให้ใช้ชื่อทรัพยากรใน campaign_criterion.keyword_theme.keyword_theme_constant ในรายการต่อไปนี้ ข้อความค้นหา:

SELECT
  keyword_theme_constant.resource_name,
  keyword_theme_constant.display_name,
  keyword_theme_constant.country_code
FROM keyword_theme_constant
WHERE keyword_theme_constant.resource_name = 'keywordThemeConstants/40804~0'

ข้อกำหนดฟังก์ชันการรายงาน

หากต้องการใช้ Smart Campaign แอปพลิเคชันของคุณต้องเป็นไปตามชุดของ ฟังก์ชันขั้นต่ำที่จำเป็น (RMF)

สำหรับการรายงานโดยเฉพาะ ต้องมีฟิลด์การรายงานจำนวนหนึ่ง พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ปลายทาง ต่อไปนี้เป็นวิธีเรียกข้อมูลในช่องที่ต้องกรอกจากรายการ ประสิทธิภาพของแคมเปญ R.20 ใน RMF

SELECT
  metrics.clicks,
  metrics.cost_micros,
  metrics.impressions,
  metrics.conversions,
  metrics.all_conversions
FROM campaign

และนี่คือวิธีเรียกข้อมูลช่องที่ต้องกรอกจากหมายเลขรายการ R.70 มุมมองข้อความค้นหาของ Smart Campaign

SELECT
  metrics.clicks,
  metrics.cost_micros
FROM smart_campaign_search_term_view

เมตริกต่อร้านค้า

นี่คือการค้นหาที่มีเมตริกต่อร้านค้าทั้งหมดที่ใช้ได้ เหล่านี้ ช่องหนึ่งยังสามารถรวมกับช่องอื่นๆ ในคำค้นหาเดียวได้ดังนี้

SELECT
  metrics.all_conversions_from_click_to_call,
  metrics.all_conversions_from_directions,
  metrics.all_conversions_from_menu,
  metrics.all_conversions_from_order,
  metrics.all_conversions_from_other_engagement,
  metrics.all_conversions_from_store_visit,
  metrics.all_conversions_from_store_website
FROM campaign

การโทรที่แบ่งกลุ่มตามชั่วโมง

วิธีดึงข้อมูลเมตริกการโทรทั้งหมดระหว่างเวลา 12:00 น. ถึง 17:00 น. มีดังนี้

SELECT
  segments.hour,
  metrics.phone_calls
FROM campaign
WHERE segments.hour BETWEEN 12 and 17